พัฒนาการของเด็กปฐมวัย
เป็นผู้ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม ครูต้องจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ทางสังคม การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตน การเล่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาในการเล่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น การปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่และความเป็นไทย 4. เป็นผู้ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ครูต้องจัดกิจกรรมให้เด็กรู้จักการคิด การสังเกต การจำแนก การเปรียบเทียบจำนวนมิติสัมพันธ์ เวลา และการให้เด็กรู้จักใช้ภาษาแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด การพูดกับผู้อื่น การอธิบายเรื่องราว การอ่านในหลายรูปแบบผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก อ่านภาพหรือสัญลักษณ์จากหนังสือนิทาน/เรื่องราวที่สนใจ 5.
06. 21 By: Starfish Academy โครงการ Starfish Academy เป็นโครงการพัฒนาวิชาชีพ นัก... เข้าร่วมเป็นสมาชิก Starfish Labz การสมัครขอรับบัญชีผู้ใช้งานระบบชุมชนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ออนไลน์ (Starfish Labz) ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง พัฒนาการด้านร่างกาย สำคัญอย่างไร กิจกรรมพัฒนาการร่างกาย แนวทางการจัดประสบการณ์ การประเมินพัฒนาการ
พัฒนาการ เด็ก ด้านร่างกาย อายุ 1-6 ขวบ พัฒนาการเด็กปฐมวัย สามารถสรุปออกเป็น 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยมีรายละเอียดของพัฒนาการแต่ละด้าน ดังนี้ 1. ฃ พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านร่างกาย หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด รูปร่าง ทรวดทรง และด้านอื่นๆของระบบร่างกายและโครงสร้างของร่างกาย เช่น การเปลี่ยนเปลี่ยนของขนาด รูปร่าง การขยายของทรวงอก หรือการเพิ่มประสิทธิภาพของหน้าที่ต่างๆที่เกี่ยวกับร่างกาย เป็นต้น พัฒนาการด้านร่างกายนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ 1. พัฒนาการทางด้านปริมาณ ได้แก่ การเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย เช่น ส่วนสูง ตัวโตขึ้น และมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น 2. พัฒนาการทางด้านคุณภาพ ได้แก่ ความสามารถในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ เช่น การนั่ง การยืน การเดิน การวิ่ง และการกระโดด ลักษณะพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัย แบ่งตามอายุของเด็กมีลักษณะ ดังนี้ 1. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 1 ปี เด็กในวัยนี้มีพัฒนาการทางการเคลื่อนไหว เริ่มจากการคลานและเดินด้วยตนเองได้เมื่ออายุประมาณ 15 เดือน แต่การทรงตัวยังไม่ค่อยดี การใช้กล้ามเนื้อมือของเด็กในวัยนี้จะพบว่าเด็กสามารถเปิดประตูและเปิดดูรูปภาพในหนังสือได้โดยใช้มือข้างที่ชำนาญ 2.
ความต้องการด้านอาหารและอนามัย 2. ความต้องการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุต่างๆ 3. ความต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ การพักผ่อน และการออกกำลังกายที่เพียงพอแก่ความต้องการ 4. ความต้องการเครื่องนุ่งห่ม สิ่งของเครื่องใช้ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย เมื่อคำนึงถึงความต้องการพื้นฐานด้านร่างกายเป็นสำคัญแล้ว การส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กจึงมีจุดหมาย ดังนี้ 4. 1เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง 4. 2เพื่อช่วยให้เด็กนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ต่อการบำรุงรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง 4. 3เพื่อช่วยป้องกันให้เด็กปลอดภัยจากโรคติดต่อ และโรคภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ 4. 4เพื่อช่วยให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อการมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง และสุขนิสัยที่ดี 4. 5 เพื่อช่วยบำบัดรักษาอาการของโรคที่เป็นอุปสรรคต่อสุขภาพอนามัยที่ดีของเด็ก 4. 6 เพื่อช่วยนำเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพอนามัยที่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของแต่ละบุคคลให้ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลที่มีความสามารถโดยตรง ที่มา ทิศนา แขมมณี และคณะ, หลักการและรูปแบบการพัฒนาการเด็กปฐมวัยตามวิถีไทย, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2535) น.
พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 2 ปี เด็กวัยนี้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ทุกส่วน ชอบเล่นของเล่นที่ออกแรงมากๆ เช่น เตะลูกบอล ตีและตอกด้วยค้อน เด็กวัยนี้สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้เองแต่ต้องวางขาทั้ง 2 ข้าง บนขั้นบันไดเดียวกันก่อน จนอายุย่าง 3 ปี จะสามารถสลับเท้าขึ้นบันไดได้ วิ่งได้คล่องขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดได้ทันที การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก สามารถหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กๆแต่หลุดมือง่าย จับดินสอแทงใหญ่ๆได้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือและนิ้วทำงานได้ดีสามารถต่อบล็อกได้ 4-8 ชิ้น 3. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 3 ปี เด็กวัยนี้กล้ามเนื้อแข็งแรง ชอบออกกำลังกาย สามารถบังคับการเคลื่อนไหวได้ดีมาก กระโดดหรือวิ่งก็ได้ ขี่จักรยาน 3 ล้อ กระโดดสูง กระโดดขาเดียว สามารถขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง และสามารถโยนลูกบอลระยะไกล 1 เมตรได้ เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ และยังใช้กรรไกรด้วยมือข้างเดียวได้ ใช้มือหยิบจับอาหารตลอดจนใช้ช้อนตักอาหารเข้าปาก ช่วยตัวเองในการแต่งกาย เช่น ถอดและใส่กระดุมเสื้อได้เอง แต่ยังต้องการให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ 4. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 4 ปี กล้ามเนื้อขาและแขนแข็งแรง การเคลื่อนไหวของร่างกายของเด็กวัยนี้ กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่นิ่ง ปีนป่าย เต้นท่าทางต่างๆได้อย่างสนุกสนาน ใช้มือถนัดขึ้น หยิบวัตถุเล็กๆได้ สามารถวิ่งและหยุดได้คล่อง รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้ ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้ สามารถช่วยตนเองเรื่องปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ เช่น การแต่งกาย การแปรงฟัน การหวีผม เป็นต้น 5.
ศ. 2545 – 2559 นั้น ครูปฐมวัยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการวางรากฐานให้เด็กเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คอมินิอุส (Comenius พ. 2135 – 2213 จากเรื่อง The Great Didactic) กล่าวว่าถ้าเราประสงค์จะให้การศึกษาด้านคุณธรรมแก่คน เราจะต้องฝึกฝนเขาขึ้นมาแต่เยาว์วัย ถ้าผู้ใดประสงค์จะก้าวล่วงไปสู่ภูมิปัญญาเราจะต้องเตรียมแผ่วถางทางให้แก่ผู้นั้น ในขณะที่ความมานะของเขายังลุกโชนอยู่ จิตใจยังหล่อหลอมได้ง่าย และความจำยังแม่นยำอยู่ บทบาทครูปฐมวัย เด็กปฐมวัยมีความสำคัญและมีความแตกต่างกับเด็กในระดับอื่นทั้งด้านพุทธพิสัย เจตคติพิสัยและทักษะนิสัย การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยมีอิทธิพลอย่างสูงต่อการพัฒนาเด็กที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ครูปฐมวัยจึงมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กดังนี้ 1. เป็นผู้ส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย ครูต้องจัดกิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ การประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อเล็ก การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในกิจวัตรประจำวัน 2. เป็นผู้ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ ครูต้องจัดกิจกรรมให้เด็กได้ชื่นชมสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ เล่นเป็นกลุ่ม เล่นในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรีง่าย ๆ มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับเสียงดนตรี และมีคุณธรรมจริยธรรม 3.
Collection: แฟ้มสะสมงาน 1/2559 Navigate to page: You are on page 6 /15 แบบประเมินพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นแบบประเมินตามสภาพที่พึงประสงค์ได้แก่ประเมินกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัด เล็ก สุขภาพ อนามัย ดนตรี และสุนทรียภาพ(อารมณ์-จิตใจ) และพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กปฐมวัยตาม ช่วงอายุ 3-5 ขวบ แบบประเมินพัฒนาการด้านร่างกายช่วงอายุ 3-5 ขวบ พัฒนาการด้านร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัยช่วงอายุ 3-5 ขวบ Updated on 29 January 2017, 7:45 PM; 21974 page visits from 31 December 2016 to 25 April 2020
พัฒนาการและความพร้อมทางด้านร่างกาย จุดมุ่งหมายของการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย การจัดประสบการณ์หรือการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายให้แก่เด็กในระดับชั้นอนุบาลศึกษา มีจุดมุ่งหมาย ดังนี้ (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. 2537ก: 3) 1. มีร่างกายเจริญเติบโตตามวัย 2. พัฒนากล้ามเนื้อและประสาทสัมพันธ์ 3. มีสุขนิสัยในการรักษาสุขภาพอนามัย 4. เรียนรู้การระวังและรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น โดยสรุปอาจกล่าวได้ว่าจุดมุ่งหมายของการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายเพื่อต้องการให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ มีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การกระโดด ใช้มือรับสิ่งของ ตัดกระดาษวาดภาพหรือใช้เชือกร้อยวัสดุขนาดเล็ก – ใหญ่ได้