0. 1 แล้ว ได้ความเร็วค่อนข้างน่าประทับใจ คือ ค่อนข้างไปตามสเปกเลยครับ การเขียนข้อมูลและอ่านข้อมูลแบบ Sequential นี่ได้ความเร็วอยู่ที่ 142. 49MB/s และ 138. 75MB/s ตามลำดับ และแม้ว่าความเร็วในการอ่านแบบสุ่มจะค่อนข้างต่ำตามมาตรฐานฮาร์ดดิสก์จานแม่เหล็ก คือ ราวๆ 0. 52MB/s แต่ความเร็วในการเขียนแบบสุ่มนี่ก็โอเคอยู่นะ 9. 76MB/s ตัวฮาร์ดดิสก์ มีการรับประกันแบบจำกัดเงื่อนไขนาน 3 ปี และมีการออกแบบให้สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นเกมแบบคอนโซลได้ด้วย ทั้ง Plastation 4 Pro หรือ PS (ซอฟต์แวร์ระบบเวอร์ชัน 4. 50 ขึ้นไป) และ Xbox One ด้วย แต่ต้องซื้อแบบเฉพาะรุ่นมานะครับ มันจะมีเขียนบอกไว้ บทสรุปการรีวิว WD_BLACK P10 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป คงไม่ได้ซื้อตัวนี้ใช้ครับ เพราะเพิ่มตังค์อีกนิดเดียว ก็ได้ WD My Passport 4TB แล้วอะ แต่สำหรับคนเล่นเกม ที่ต้องการ External HDD เอาไว้เก็บเกมไว้ใช้ ผมว่า WD_BLACK P10 ก็จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ครับ ด้วยความที่เรารู้กันว่า Color code ของ WD นั้น รุ่น Black หรือ สีดำ มันเป็นรุ่นสำหรับคนที่ต้องการเน้นประสิทธิภาพ ลิงก์สำหรับซื้อรุ่น 2TB, 4TB, 5TB อยู่ด้านล่างนี้แล้วครับ อยากได้ความจุเท่าไหร่ คลิกโลด โพสต์อื่นๆ ที่อาจสนใจ
3 kg ต่อ 1 kWh หมายเหตุ: Tesla Model 3 SR+ นั้นก็ได้วางขายในบ้านเราเช่นกัน Tesla Model 3 Long Range อัตราส่วนอยู่ที่ 23. 7 kg ต่อ 1 kWh ส่วน Tesla Model 3 Long Range นั้นจะมีน้ำหนักสุทธิที่ 1, 940 kg มาพร้อมแบต 82 kWh(รุ่นปี 2021) สามารถทำอัตราส่วนได้ที่ 23. 7 kg ต่อ 1 kWh ทำให้ขว้าตำแหน่งอันดับ 5 ไปโดยปริยาย เอาล่ะครับ ลองมาดูการเปรียบเทียบอัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายกันในบ้านเราบ้างดีกว่าครับ MG ZS EV อัตราส่วนอยู่ที่ 32. 8 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมในไทยของเรานั้นก็มีอยู่ในลิสต์นี้นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG ZS EV ซึ่งหนักประมาณ 1, 630 kg โดยรถยนต์รุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 45 รถยนต์ไฟฟ้า MG รุ่นนี้จะใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 50 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้คือ 32. 8 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ 30. 7 kg ต่อ 1 kWh Volvo XC40 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 29. 5 kg ต่อ 1 kWh สำหรับอีกหนึ่งรุ่นที่มีขายในไทยนั่นคือ Volvo XC40 มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2, 300 kg สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 34 โดยรถรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 78 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้เฉลี่ยอยู่ที่ 29.
Flash Drive, Handy Drive และ Thumb Drive แตกต่างกันอย่างไร? แม้ขณะนี้จะเป็นยุคของ Cloud Storage จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ออนไลน์กันแล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย นั่นก็คือ Flash Drive หรือ Handy Drive หรือ Thumb Drive แม้ทุกคนจะเข้าใจว่าทั้งสามชื่อนี้คืออุปกรณ์ USB สำหรับเก็บข้อมูลขนาดพกพา แล้วตกลงชื่อจริง ๆ ของมันคืออะไรกันแน่ แล้วสามชื่อนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร? ไปค้นหาคำตอบกัน ประวัติความเป็นมาของ Flash Drive ก่อนจะมาเป็น แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive) ในทุกวันนี้ ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี ค. ศ. 1956 (พ. 2499) เพราะว่าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เรียกว่า " ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive - HDD) หรือ ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) " นั้นได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมันได้ใช้วิธีการจัดเก็บข้อมูลบนดิสก์ที่เป็นหมุนอย่างรวดเร็ว โดยในยุคแรกๆ นั้น ฮาร์ดดิสก์ที่มีพื้นที่ความจุเพียง 37. 5 MB. แต่ว่ามันมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับตู้เย็นเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์มีขนาดที่เล็กลง จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นถึงหลักเทราไบต์ (TB. ) เพราะเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ถูกพัฒนาก้าวไกลไปมาก และยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเก็บข้อมูลในปัจจุบัน และในปี ค.
2000 (พ. 2543) และในปีเดียวกัน วิศวกรจากบริษัท IBM อย่าง Shimon Shmueli ได้เปิดเผยหลักฐานการประดิษฐ์ Flash Drive และบุกเบิกการใช้งาน Flash Drive ในบริษัท KeyNetica ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นอกจากนี้ วิศวกรชาวมาเลเซียอย่าง Pua Khein-Seng ก็เป็นอีกคนที่กล่าวว่าตัวเองเป็นผู้ประดิษฐ์ Flash Drive ในขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อมาเลเซีย และได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนบางส่วน วิวัฒนาการของ Flash Drive มีที่มาที่ไปยังไง? นอกจากเรื่องของขนาดและดีไซน์ สิ่งที่ใช้วัดความสามารถของ Flash Drive อีกอย่างหนึ่งก็คือ "ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล" โดย Flash Drive แบ่งออกตามเทคโนโลยี USB ที่ใช้ และความเร็วของการรับ-ส่งข้อมูลในแต่ละเวอร์ชัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 เวอร์ชัน ดังนี้ USB 1. 1: เริ่มต้นในปี ค. 1998 (พ. 2541) ส่งข้อมูลความเร็วสูงสุดที่ 12 เมกะบิตต่อวินาที (Mbit/s) หรือ 1. 5 เมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s) USB 2. 0: เป็นเวอร์ชันพัฒนาจากรุ่นก่อน เริ่มใช้งานในปี ค. 2001 (พ. 2544) สามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุด 480 Mbit/s และเป็นครั้งแรกที่ Intel นำพอร์ต USB 2. 0 ไปใช้ในคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อปอย่างแพร่หลาย USB 3.
2 kg ต่อ 1 kWh ยกตัวอย่างเช่นรถ Ford Mustang Mach-E น้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะอยู่ที่ 2, 300 กิโลกรัม และความจุของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 98. 9 kWh พอเราเอาตัวเลขมาหารกันผลลัพธ์ที่ได้คือรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะมีน้ำหนักรถอยู่ที่ 23. 2 กิโลกรัมต่อ 1 kWh ตัวเลขที่เราได้นั้นคือประสิทธิภาพต่อน้ำหนักของตัวรถแบบปอนด์ต่อปอนด์ ที่หนึ่งคือ Tesla Model S LR Raven มีอัตราส่วนอยู่ที่ 22. 4 kg ต่อ 1 kWh จากตัวเลขตามตารางนี้แชมป์ของเราจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Tesla Model S รุ่น Long Range Raven โดยตัวเลขจะอยู่ที่ 22. 4 กิโลกรัมต่อ 1 kWh สำหรับค่าเฉลี่ยกลางของรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นตัวเลขจะอยู่ที่ 30. 7 กิโลกรัมต่อ 1 kWh โดยรวมแล้วรถยนต์ไฟฟ้าที่มีผลลัพธ์ที่ดีนั้นจะมีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เช่น Ford Mustang Mach-E และใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูง หากเรามองกันดีๆจะเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่าแทบจะครองแชมป์ท็อปเทนของตารางนี้ นั่นเพราะแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่ามี Energy Density ที่สูงกว่าคือ มีขนาดเล็กแต่มีความจุไฟฟ้าที่เท่ากันหรือมากกว่า Tesla Model 3 SR+ MIC อัตราส่วนอยู่ที่ 31. 3 kg ต่อ 1 kWh อย่างไรก็ตามรถบางรุ่นของเทสล่านั้นก็ใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต) ของบริษัท CATL จากตารางนี้จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้คะแนนรั้งท้ายจะเป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก อย่าง Tesla Model 3 SR+ MIC(Standard Range Plus) รุ่นผลิตจีนที่ใช้แบต LFP นั้นจะอยู่อันดับที่ 40 ซึ่งทำคะแนนได้ที่ 31.
WD My Passport Wireless Pro ต่อกันด้วย WD My Passport Wireless Pro อุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บสูงถึง 3 TB เรียกได้ว่าเก็บไฟล์ต่างๆ ได้อย่างเพียงพอแน่นอน แถมใช้งานง่ายด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ขนาดไม่ใหญ่ พกพาสะดวก และยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้หลายอย่างอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องอ่านการ์ด SD ในตัว เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและถ่ายโอนข้อมูล รองรับ USB 3. 0 ภายในมีแบตเตอรี่ความจุ 6, 400 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานรวมถึงใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับ iPhone ได้ด้วย ใครมองหาพื้นที่เก็บข้อมูลความจุสูงแนะนำรุ่นนี้เลย 4. APACER AH190 APACER AH190 อุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ผ่านการรับรอง MFi, CE, FCC, BSMI, RCM มีความจุให้เลือกที่ 32 GB, 64 GB และ 128 GB ดีไซน์สวยงามทันสมัยในสี Rose Gold และ สีทอง รองรับการเชื่อมต่อพอร์ต Lightning และ USB 3. 1 Gen 1 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วและใช้กับอุปกรณ์ได้หลายอย่าง รองรับแอปพลิเคชั่น iFileBridge สำหรับจัดการไฟล์ หมดปัญหาพื้นที่จัดเก็บไม่เพียงพอแม้ไฟล์จะมีขนาดใหญ่ สำรองได้ทั้งรายชื่อติดต่อ ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม 5.
2 Gen 2×2) และปลอกยางซิลิโคนแบบถอดได้สำหรับห่อหุ้มตัวไดร์ฟเพื่อให้มีความทนทานต่อการกระทบกระทั่งมากขึ้น ( คลิกดูภาพใหญ่) Kingston XS2000 ตัวที่เรารีวิวนี้มีความจุ 1TB สำหรับอีกสองความจุที่มีจำหน่ายในเวลานี้คือ 500GB และ 2TB ทราบเบื้องต้นว่าทั้งหมดมีขนาดและน้ำหนัก หรืออุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาด้วยไม่แตกต่างกัน ในสภาพใหม่แกะกล่องพบว่าตัวไดร์ฟได้รับการฟอร์แมตมาพร้อมใช้แล้ว (exFat) ตามสเปคฯ ของผู้ผลิตแจ้งว่า Kingston XS2000 สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows® 10, Mac OS (v. 10. 14. x หรือใหม่กว่า), Linux (v. 2.