ลูกเคยล่วงเกินคุณครูบาอาจารย์ ทั้งผู้เคยมีพระคุณและมีอุปการะคุณ โดยการกระทำตัวผิดทาง ไม่เอาคำสอนโอวาทท่านมาปฏิบัติเสียแรงที่ท่านพร่ำสอนด้วยใจห่วงใย ด้วยใจรักเมตตา ลูกเคยทำลายล้างคำสอนท่านที่หวังดี แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้ ๔. ลูกเคยล่วงเกินทุก ๆ ท่านในภูมิจิตแห่งพระนิพพาน ภูมิจิตแห่งพรหมโลก ภูมิจิตแห่งเทวโลกแห่งมนุษย์โลก ภูมิจิตแห่งเดรัจฉานโลก ภูมิจิตแห่งวิญญาณโลก ล่วงเกินต่อปูชนียสถานแดนธรรมในโลก ทั้งเจตนาและมิได้เจตนา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้ ๕. ลูกเคยแสดงความหยาบกระด้าง หรือใช้กำลังด้วยโทสะรุนแรงตบตีต่อยชกลูกหลาน หรือสามีภรรยาอย่างขาดสติ ขาดจากคุณค่าของมนุษย์ทำตนดุจเดรัจฉาน ลูกเป็นผู้โง่เขลาเมาหลงในอารมณ์ของตนเอง แต่กาลก่อนถึงวันนี้ ๖. ลูกเคยผิดพลาดมัวหมองด่างพร้อยรอยมลทินในศีลกาย ศีลวาจา ศีลใจ ทั้งผิดสัจจะที่ตั้งใจ บางข้อบางประการ บางโอกาส แต่กาลก่อนถึงวันนี้ ๗. ลูกเคยแสดงออกทางสายตาใบหน้าว่าโกรธเคืองอาฆาตพยาบาท ทั้งเคยสาปแช่งจองเวร ทั้งอิจฉาริษยา ทั้งนินทาใส่ร้ายผู้อื่น และเคยปั้นโยนความผิดให้ผู้อื่นโดยไม่เป็นความจริงเลยแต่กาลก่อนถึงวันนี้ ๘. ลูกเคยแสดงความไม่บริสุทธิ์ทางกาย วาจา ใจ ต่อผู้อื่น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่กาลก่อนถึงวันนี้ ๙.
เว้นจากการตกแต่ง ทัดดอกไม้ ลูบไล้ด้วยของหอม ๙. เว้นจากการนั่งและนอน บนเตียง ฟูก ตั่ง อันสูงใหญ่ภายในยัดนุ่น สำลีนุ่มสบาย มีลวดลายวิจิตรงดงาม ๑๐. เว้นจากการรับเงินและทอง รวมทั้งของมีค่าอื่น ๆ ศีลทั้ง ๑๐ ข้อนั้น พึงจำไว้ว่าถ้าทำผิด ๕ ข้อข้างต้นข้อใดข้อหนึ่ง จะทำให้ขาดจากความเป็นสามเณรทันที แต่ถ้าทำผิด ๕ ข้อเบื้องปลาย จะถูกลงโทษให้ทำงาน เช่น ขัดห้องนํ้า ปัดกวาด ลานวัด เป็นต้น นอกจากนี้สามเณรยังต้องศึกษาและปฏิบัติตนตามเสขิยวัตร ๗๕ ข้อ เพื่อฝึกกิริยามารยาทของตนให้เรียบร้อยดีงาม เกิดความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น. สิ่งที่ต้องจัดเตรียมในการบวชสามเณร ๑. ดอกไม้ ธูป เทียน สำหรับบูชาพระรัตนตรัย ๑ ชุด ๒. ดอกไม้ ธูป เทียน หรือธูปเทียนแพสำหรับถวายอุปัชฌาย์ ๓. ไตรจีวร (ไตรแบ่ง) มี จีวร อังสะ ประคดเอว สบง และผ้ารัดอก ๔. บาตร พร้อมฝาและเชิง ๕. จีวร สบง อังสะ สำรองเปลี่ยนผ้าอาบน้ำ ๑ ผืน ๖. ย่าม ผ้าเข็ดหน้า ร่ม รองเท้า ๗. เสื่อ หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ๘. ของใช้ที่จำเป็นอย่างอื่น เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ช้อนส้อม จาม เป็นต้น ข้อ ๕-๘ จะไม่มีก็ได้. การอุปสมบท การบวชเป็นพระภิกษุ ผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุได้นั้น เบื้องต้นต้องบวชเป็นสามเณรก่อนจึงจะเข้าสู่การอุปสมบทเป็นพระอีกต่อหนึ่ง พระนั้นถือศีลทั้งหมด ๒๒๗ ข้อ ปรับโทษหนัก-เบาตามสิกขาบทที่ล่วงละเมิด แต่มี ๔ ข้อ ที่มีโทษหนักที่สุด เรียกว่า อาบัติปาราชิก พระรูปใดทำผิดเข้าต้องขาดจากความเป็นภิกษุโดยอัตโนมัติ แม้จะกลับมาบวชอีกก็ไม่ได้ คือ ๑.
ห้ามเสพเมถุน (ร่วมประเวณีกับบุคคลอื่น) ๒. ฆ่าคนตาย (โดยเจตนา) ๓. ลักขโมยเอาทรัพย์ของผู้อื่น มีราคาตั้งแต่ ๑ บาทขึ้นไป ๔. พูดอวดคุณวิเศษที่ตนไม่มี เพื่อหลอกลวงคนอื่นหากิน ๔ ข้อนี้ ภิกษุต้องระวังให้มาก เพราะไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ ทำผิดเข้าแล้วต้องขาดจากความเป็นพระเหมือนกัน. สิ่งที่ต้องจัดเตรียมในการอุปสมบท ๑. ไตรครอง ๑ ชุด (สบง จีวร สังฆาฏิ ประคดเอว) ๒. บาตร (พร้อมฝาและเชิง) ถลกบาตร สายโยก และถุงตะเครียว ๓. มีดโกน พร้อมหินลับมีด ๔. เข็มเย็บผ้า พร้อมกล่อง และด้าย ๕. เครื่องกรองนํ้า (ธมกรก) ข้อ ๑-๕ นี้ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เพราะจัดเป็นอัฏฐบริขาร บริขาร ๘ ของที่จำเป็นที่พระต้องมี ๖. จีวร สบง อังสะ ผ้าอาบน้ำ ไว้ใช้สำรองอย่างละผืน ๘. ผ้าเข็ดหน้า ตาลปัตร ร่ม รองเท้า ย่าม ๙. ช้อนส้อม จาน ผ้าเช็ดมือ กระติกน้ำ กาต้มน้ำ แก้วนํ้า ๑๐. กระโถน ๑๑. ขันอาบนํ้า สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ๑๒. อาสนะ (ผ้าปูนั่ง) ข้อ ๖-๑๒ นี้ จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ค่อยจัดหาเพิ่มทีหลังตามความจำเป็น การเตรียม ผ้าไตรให้วางบนพานแว่นฟ้า มีดโกน หินลับมีด กล่องเข็ม ธมกรกให้ใส่ในบาตร นำบาตรสวมในถุง ตะเครียว นอกจากนี้ ยังนิยมใส่เครื่องรางของขลังในบาตร เพื่อปลุกเสกให้มีความศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งขึ้น.
ขอขมาใหญ่ในชีวิต เพื่อพิชิตดวงธรรม ท่านแม่บงกช สิทธิพล แดนมหามงคล ที่พักบำเพ็ญเพื่อสะสมอารมณ์พระนิพพาน บ้านช่องแคบ อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี ๗๑๑๕๐ ลูกน้อมเปิดใจไขกรรมออก ลูกขอนอบน้อมพร้อมเทียนเหนือเศียรเกล้า เพื่อก้มกราบขมา กราบลาโทษ กราบบูชาสักการะ กราบอนุโมทนา กราบสาธุการ แด่ คุณพระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ คุณพระธรรมเจ้า ทุก ๆ พระองค์ คุณพระอริยสงฆเจ้า ทุก ๆ พระองค์ คุณพระบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุก ๆ ท่าน ลูกทั้งหลายขอน้อมเปิดใจไขกรรมที่ทำมา เพื่อขอขมาใหญ่ในชีวิต ๑. ลูกเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ต่อคุณพระพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ ต่อคุณพระธรรมเจ้า ทุก ๆ พระองค์ ต่อคุณพระอริยสงฆเจ้า ทุก ๆพระองค์ ทั้งเคยล่วงเกินต่อพระภิกษุสงฆ์ พระสมมติสงฆ์ ท่านสามเณร ทั้งแม่ชี แม่พราหมณ์ พ่อพราหมณ์ และนักบวชทั่วโลก ทั้งเจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้ ๒. ลูกเคยละเมิดคำสอนโอวาทของบิดามารดาผู้ให้เลือดเนื้อและชีวิต เคยถกเถียงต่อปากต่อคำ อันทำให้พ่อแม่เสียใจ เสียขวัญ เสียน้ำตา เสียกำลังใจ เพราะการกระทำอันผิดแนวของการเป็นลูกที่ดีของท่าน แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้ ซึ่งการทำให้ท่านผิดหวังในตัวลูก เท่ากับเป็นการฆ่าบั่นทอนชีวิตพ่อแม่ทีละน้อย ๆ ซึ่งเป็นบาปมหันต์แท้ อาจเป็นผลให้ผลักต้านกั้นทางพระนิพพาน ๓.
อธิษฐาน ปักธูปลงดินหรือกระถางต้นไม้ กราบ 3 ครั้ง 4. ปูผ้าขาวที่พื้น นำเก้าอี้มาตั้ง เตรียมน้ำใส่น้ำอบน้ำหอมสำหรับล้างเท้าใส่ในกะละมัง ลอยด้วยดอกมะลิหรือกลีบกุหลาบ 5. เชิญคุณพ่อคุณแม่มานั่งที่เก้าอี้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก 6. เริ่มกราบคุณพ่อก่อน โดยกราบ 3 ครั้ง แบบแบมือ จากนั้นเอาเท้าคุณพ่อแช่น้ำ ค่อยๆล้างเท้าคุณพ่อทีละข้างอย่างตั้งใจจริงๆ ระหว่างที่กำลังล้างเท้าให้นึกถึงสิ่งที่เราเคยทำไม่ดีเอาไว้แก่ท่านตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบัน แล้วพูดออกมาให้หมดใจ 7. เมื่อล้างเท้าเสร็จ 2 ข้าง แล้วใช้ผ้าเช็ดคุณพ่อให้แห้ง 8. จากนั้นให้พูดคำว่า "กราบขอขมา ขออภัย ขออโหสิกรรม จากคุณพ่อด้วย" ซึ่งสิ่งที่เคยทำไม่ดีไว้จะตกก็ต่อเมื่อคุณพ่อพูดกลับมาว่า "พ่อให้อภัย ยกโทษให้และอโหสิกรรมให้" เท่านั้น 9. นำพวงมาลัย 1 พวง พร้อมกับ ซองเงิน 1 ซอง มอบให้พ่อด้วย 2 มือ 10. กราบที่เท้าคุณพ่อ 3 ครั้ง แบบมือได้ 11. ทำเช่นเดียวกันกับคุณแม่ตั้งแต่ข้อ 6-10 12.
ก่อนทำพิธีขอขมาพ่อแม่ ให้อธิษฐานจิตบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ดังนี้ "องค์พระพุทธเจ้า ลูกชื่อ…………………………….. วันนี้ลูกตั้งใจจะขอขมา ขอโอสิกรรมจากคุณพ่อคุณแม่ ขอองค์พระพุทธจงบันดาลให้ลูกทำสิ่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ด้วยเทอญ แม่ซื้อ เทพยดาทั้งหลาย เจ้าที่เจ้าทาง พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่พระพาย พระแม่พระเพลิง วันนี้ เวลานี้ ลูกชื่อ…………………………. ได้ตั้งใจที่จะทำพิธีขอขมา ขออโหสิกรรมจากคุณพ่อ คุณแม่ ขอจงเป็นพยานให้ลูกด้วยเทอญ" 2. ให้พ่อกับแม่นั่งบนเก้าอี้หรือโซฟา ขณะที่เรานั่งกับพื้น พร้อมกราบท่าน 3 ครั้ง 3. ให้ยกเท้าของท่านมาล้างในกะละมังน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ โดยขณะที่ล้างเท้าให้ท่านอยู่นั้น ก็กล่าวขอขมากรรมในสิ่งที่เคยล่วงเกินท่าน ทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต ทั้งกายก็ดี วาจาก็ดี ใจก็ดี หรือในสิ่งที่ทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ ลูกกราบขออโหสิกรรมในสิ่งเหล่านั้นด้วย 4. หลังจากที่เราล้างเท้าท่านไป พูดไป จนเสร็จก็ให้นำเท้าของท่านมาวางบนขาเรา ซึ่งมีผ้าเช็ดเท้ารองอยู่ หลังจากนั้น ก็ให้เช็ดเท้าท่านให้แห้ง 5. เมื่อเช็ดเท้าของท่านแห้งดีแล้ว ก็ให้นำเท้าของท่านมาวางไว้บนขาเราก่อน และอธิษฐานจิตพร้อมพูดบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกครั้งว่า "พระแม่ธรณีเจ้าขา พระแม่คงคาเจ้าขา พระแม่พระพายเจ้าขา พระแม่พระเพลิงเจ้าขา ลูกมาขอกราบขมาลาโทษ ขอเป็นทิพยญาณ นำความดีและกุศลผลบุญที่ลูกทำในครั้งนี้ไปบอกปู่ยมราช และนายนิติยบาลให้ด้วย ให้ช่วยจดบันทึกคุณงามความดีครั้งนี้ ที่ผ่านมาลูกจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ลูกขอรับใช้กรรม แต่หลังจากนี้ไป ลูกกราบขอชีวิตใหม่จากบุพการี" 6.
การเตรียมตัวก่อนบวช กุลบุตรผู้มีศรัทธาจะบวช ไม่ว่าจะบวชพระหรือสามเณรสิ่งสำคัญที่ต้องทำในเบื้องต้น คือ ๑. ให้มารดา บิดานำตัวไปมอบแก่เจ้าอาวาส หรือพระอุปัชฌาย์ในวัดที่ต้องการจะบวชอยู่อาศัย เพื่อให้ท่านได้ตรวจดูคุณสมบัติและกำหนดวันบวชให้ พร้อมทั้งกรอกใบสมัครบรรพชา อุปสมบท ๒. ก่อนถึงวันบวช ๓ วัน หรือ ๗ วัน ต้องท่องจำคำขอบรรพชาอุปสมบท ที่ เรียกว่า ขานนาค ให้ได้ถูกต้องคล่องปากอย่าให้อึกอัก ๓. หมั่นฝึกซ้อมขั้นตอนพิธีการบรรพชาอุปสมบท กับอุปัชฌาย์ให้เข้าใจ ๔. ฝึกหัดกิริยามารยาทของภิกษุ เช่น การกราบ การไหว้ การประเคนให้ถูกต้อง. การบรรพชา การบวชสามเณร หลังจากที่มารดาบิดานำตัวไปมอบให้เจ้าอาวาสหรือพระอุปัชฌาย์แล้ว สิ่งที่ผู้บวชจะต้องทำต่อไปคือ ท่องจำคำขอบรรพชา, ไตรสรณคมน์, คำอาราธนาศีล, คำสมาทานศีล ๑๐ ให้ได้ ศีล ๑๐ นั้น คือ ๑. เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ๒. เว้นจากการลักขโมย ๓. เว้นจากการเสพกาม (ร่วมประเวณีกับผู้อื่น) ๔. เว้นจากการพูดโกหก พูดคำหยาบ พูดยุยงให้เขาแตกกัน และพูดเรื่องไร้สาระ ๕. เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย และเสพของมึนเมาต่าง ๆ ๖. เว้นจากการบริโภคอาหารหลังจากเที่ยงวัน ๗. เว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการละเล่น ๘.
วิ. มาตรา 3 (5) และมาตรา 5 (1) เมื่อความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายตาม ป. มาตรา 284 วรรคแรก (เดิม) เป็นความผิดอันยอมความได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดฐานดังกล่าวจึงระงับไป ตาม ป.
เสร็จแล้ว นาคพึงประนมมือน้อมรับไตรจีวรจากบิดามารดา บิดามารดาวางไตรจีวรพาดบนแขนทั้ง ๒ นาคประคองแนบไว้กับอก แล้วคุกเข่าเข้าไปหาอุปัชฌาย์ วางผ้าไตรจีวรไว้ด้านซ้ายมือ รับเครื่องสักการะถวายพระอุปัชฌาย์ กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2562 ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ตาม ป. อ. มาตรา 317 วรรคแรก (เดิม) กฎหมายมุ่งประสงค์ที่จะลงโทษผู้ที่ละเมิดอำนาจปกครองดูแลเด็กของบุคคลดังกล่าว อันเป็นการคุ้มครองเด็กมิให้ถูกล่อลวงไปในทางเสียหาย ดังนั้น การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล จึงไม่ต้องถึงขนาดเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เด็กปราศจากอิสระในการเคลื่อนไหวหรือควบคุมเด็กไว้ เพราะการกระทำเช่นนั้นจะเป็นความผิดต่อเสรีภาพอีกต่างหาก การจะเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ตาม ป.