)ต่อไร่ ส่วนข้าวโพดได้ผลผลิตเฉลี่ยเพียง 713 กก. ต่อไร่ ถือว่ายังต่ำกว่าศักยภาพผลผลิตที่ควรได้อยู่มาก มีผลให้รายได้สุทธิหลังหักต้นทุนผลผลิตของเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ชาวไร่ลดลงอย่างมาก จากก่อนหน้านี้ก่อนปุ๋ยขึ้นราคารายได้ของเกษตรกรรายเล็กส่วนใหญ่ก็แทบไม่พอกินอยู่แล้ว ไหนจะมีภาระหนี้สินที่เกิดจากทำไร่ทำนารอบตัวอีก หากภาครัฐไม่หันมาปฏิรูปพัฒนาภาคเกษตรอย่างจริงจังและจริงใจแล้ว อนาคตอาชีพของเกษตรกรไทยคงต้องไปอยู่ในมือของนายทุนใหญ่อย่างแน่นอน ที่มา: หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3, 726 วันที่ 28 - 3 ตุลาคม พ. ศ. 2564 ข่าวที่น่าสนใจ
ในการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตสูงนั้น ประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุ์ข้าวที่ดี วิธีการปลูกและดูแลรักษา การป้องกันและกําจัดแมลงศัตรูข้าว การกําจัดวัชพืช นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสําคัญกับการ เพิ่มผลผลิตของข้าวคือ …. การใส่ปุ๋ย ….
7 ถังกรอกบรรจุ จำนวน 2 ถัง 2. 8 เครื่องชั่งน้ำหนัก จำนวน ๒ เครื่อง 2. 9 เครื่องเย็บกระสอบ จำนวน 2 เครื่อง 2. 10 รถโฟล์คลิฟท์ จำนวน 1 คัน รวมมูลค่าความเสียหาย 3. 5 ล้านบาท เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นปุ๋ยเคมีปลอมนำส่งตรวจวิเคราะห์ฯ และส่งพนักงานสอบสวน กก. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายข้อหาที่ 1 ผลิตปุ๋ยเคมีโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12, 57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา ห้ามมิให้ผู้ใดผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้า ที่ต้องขึ้นทะเบียน แต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ ตามมาตรา 30(5), 71 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
เกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องการลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ แนวทางการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ "4 ถูก ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกเวลา ถูกวิธี" ให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึง
ชุมพร
89 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 12. 3% โดยปริมาณผลผลิตคาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อน สำหรับราคายางพาราคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 12. 0% ซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตยางรถยนต์ปรับสัดส่วนการใช้ยางสังเคราะห์มาเป็นยางธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงความต้องการยางพาราที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออกหลัก (จีนและมาเลเซีย) ที่ต้องการนำไปผลิตเป็นสินค้าขั้นปลาย ได้แก่ ยางรถยนต์ และถุงมือยางทางการแพทย์ มากขึ้น ปาล์มน้ำมัน: คาดว่ารายได้เกษตรกรจะเพิ่มขึ้นเป็น 1. 28 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 13. 6% โดยปริมาณผลผลิตและราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3. 6% และ 9. 7% ตามลำดับ ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาปาล์มน้ำมันปรับสูงขึ้นจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกมากขึ้น ด้านราคาที่ปรับเพิ่มนั้นสาเหตุมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และอินโดนีเซียผู้ผลิตปาล์มรายใหญ่ของโลกจำกัดการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อคุมราคาน้ำมันปาล์มที่ใช้ประกอบอาหารในประเทศไม่ให้สูงเกินไป อ้อย: คาดว่ารายได้เกษตรกรจะเพิ่มขึ้นเป็น 0. 97 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 47. 9% โดยปริมาณผลผลิตและราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 28. 1% และ 15. 5% ตามลำดับ ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมาสภาวะอากาศที่กลับสู่ปกติรวมถึงราคาอ้อยที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจาก 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ได้แก่ สมาคมโรงงานน้ำตาลไทย สมาคมผู้ผลิตน้ำตาลและชีวพลังงานไทย และสมาคมการค้าอุตสาหกรรมน้ำตาล ร่วมกันประกันราคาอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2565/66 ขั้นต่ำไว้ที่ 1, 000 บาทต่อตัน จูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกมากขึ้น มันสำปะหลัง: คาดว่ารายได้เกษตรกรจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.
สั่งซื้อโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
มิตรชาวไร่ ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 256 – หน้า 32 ปุ๋ยควบคุมการปลดปล่อยยูเรียเพื่อประยุกต์ใช้ในทางเกษตรกรรม
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงผลสำเร็จของโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) ในงานแถลงข่าว "OSS เคสดี ต้องมีโชว์" ว่า ผลการดำเนินการของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช. ) ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในการทำการเกษตรสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด เกษตรกรจำนวน 108, 036 ราย จาก 394 ศูนย์ ใน 63 จังหวัด พื้นที่ 1. 3 ล้านไร่ ได้รับประโยชน์ ปริมาณการใช้ปุ๋ยลดลง 59, 047. 37 ตัน คิดเป็น 49% สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ยในพืชเศรษฐกิจต่างๆ ไม่น้อยกว่า 36. 91% คิดเป็นมูลค่ามากถึง 244 ล้านบาท และเพิ่มผลผลิตได้จริง โดยผลผลิตของเกษตรกรที่ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเกิดการจ้างงานในธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน ประมาณ 2, 600 คน ทั้งนี้ ในด้านการให้บริการเชิงธุรกิจ ศดปช. ทั้ง 394 แห่ง ได้จดทะเบียนผู้ขายปุ๋ย เพื่อให้สามารถจำหน่ายปุ๋ยให้กับเกษตรกรทั่วไปได้ ได้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน มีเกษตรกรใช้บริการ จำนวน 114, 041 ราย มีการจำหน่ายแม่ปุ๋ย 82, 109 กระสอบ และมีการให้บริการผสมปุ๋ยรวม 4, 099, 909 กิโลกรัม สำหรับโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) จะมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสมาชิกเครือข่าย รวมถึงเกษตรกรทั่วไปให้สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีและได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.
กระบี่