23 ส. ค. 2564 เวลา 13:24 น. 2. 9k กยท. ส่งลิงก์ ตรวจสอบสถานะขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง เตรียมความพร้อม เข้าประกันราคายางพารา 3 ชนิด ยางแผ่นดิบ รับเงินสูงสุด 60 บาท/กก. งานเข้า เว็บล่ม! การยางแห่งประเทศไทย (กยท. ) โพสต์เฟซบุ๊ก เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท. ) สามารถตรวจสอบสถานการณ์ขึ้นทะเบียนได้ตามลิงก์ พอ กดคลิกเข้าไป เว็บเปิดไม่ได้ เกษตรกรก็เริ่มไม่พอใจ เสียงต่อว่ากันเพียบ จากที่ผ่านมาในพืชต่างๆ นั้น ก็ได้มีการต่อประกันรายได้ทุกพืชแล้ว ยังเหลือ ยางพารา อยู่ชนิดเดียว ดังนั้น เมื่อ กยท. ส่งลิงก์มาให้ จึงทำให้มีเกษตรกรเข้าไปตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อหวังว่าหากมีการอนุมัติโครงการประกันรายได้ยางพารา ระยะที่ 3 จะได้มีชื่อเพื่อเข้ารับสิทธิการชดเชยประกันรายได้ราคายาง หากราคายางมีความผันผวน หรือหากตรวจรายชื่อแล้วยังไม่มีจะได้รีบติดต่อ กยท. สาขานั้น เพื่อปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรต่อไป 1. ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม 2. น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม 3. ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม โดยกำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ คือ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) จำนวนไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) จำนวนไม่เกิน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ข่าวที่น่าสนใจ
นางสาวสุตาภัทร ม่วงนา ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ ยางพาราเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจหลักของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตเกษตรกรกว่า 1. 4 ล้านครัวเรือน ถามว่า ทำไมไทยถึงปลูกยางพารามากขนาดนี้?
เผยแพร่: 27 ม. ค. 2558 02:13 โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย อาชีพการทำสวนยางของคนในภาคใต้กำลังวิกฤตหนักขึ้นทุกวัน ที่จริงเป็นปัญหานี้สะสมมานาน วนอยู่ในวงจรเดิม เวลานี้ ราคายางตกต่ำมากที่สุดในรอบสิบปี ล่าสุดน้ำยางสด ราคากิโลกรัมละ 38 บาท ยางแผ่นดิบ กิโลกรัมละ 46. 50 บาท (ข้อมูล สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง 26 ม. 58) ในขณะที่ต้นทุนกิโลกรัมละ 65.
หรือดูวิธี ตรวจสอบผลการโอนเงินจาก ธนาคาร ธ. ได้ที่ข้อมูลด้านล่าง ตรวจสอบผลการโอนเงินจาก ธนาคาร ธ. กรณีไม่แจ้งเลขบัญชีรับโอนเงิน สำหรับ เกษตรกรสวนยาง จำนวน 21, 662 ราย แต่ไม่สามารถโอนเงินได้เนื่องจากยังไม่แจ้งเลขที่บัญชีในระบบเยียวยาเกษตรกรของ ธ. 1. หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2. หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 3.
ยางยังเป็นตัวหลัก คนภาคใต้ประกอบอาชีพ " ทำสวนยาง " มานานไม่ต่ำกว่า "ครึ่งศตวรรษ" และได้สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วอายุคน นั่นเท่ากับเป็น "ตราประทับ" ได้ว่า อาชีพนี้มีความยั่งยืน ผู้ที่มีคุณูปการยิ่งต่ออาชีพสวนยาง ก็คือ พระยารัษฎานุประดิษฐ มหิศรภักดี (คอ ซิ บี้ ณ ระนอง) ผู้นำยางพารา "ต้นแรก" จากประเทศมาเลเซีย มาปลูกในประเทศไทย เมื่อปี 2442 อ. กันตัง จ. ตรัง ก่อนจะถูกนำไปขยายพันธุ์ทำเป็นสวนยางขึ้นมา และนั่นก็คือ "ปฐมบท" ของยางพาราเมืองไทย นับจากนั้นพื้นที่ปลูกยางจะกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จนสามารถก้าวนำมาเลเซีย เป็นผู้ส่งออกยางพารามากที่สุดของโลก และเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทำรายได้เข้าประเทศหลักหลายแสนล้านบาท/ปี หากแต่การทำสวนยางในยุคนี้ถ้าจะบอกว่าเป็นอาชีพที่ "ยั่งยืน" อาจจะถูกตำหนิว่า "โกหกทั้งเพ" ตามภาษาคนใต้ เพราะวันนี้ ราคายางปรับตัวลดลงแบบน่าใจหาย จนใกล้เคียงกับต้นทุน สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะมีผลผลิตออกมาจำนวนมาก เฉพาะของไทยปีละ 4. 2 ล้านตัน และส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ผู้ใช้ยางอันดับหนึ่งของโลก เมื่ออาชีพสวนยางไม่ "โสภา" จะให้ชาวสวนยางไปประกอบอาชีพอะไร โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีพืชเศรษฐกิจให้เลือกไม่มากนัก มีแค่ "ยาง" กับ "ปาล์ม" คำถามเดียวกันถ้าชาวสวนยางโค่นยางไปปลูกปาล์มกันหมด อนาคตจะตกระกำลำบากเหมือนยางหรือไม่…???