30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ได้นำตัวนายชม ไชยณรงค์ หรือ อาจารย์ อายุ 53 ปี ชาว จ. นครราชสีมา มาร่วมแถลงข่าวด้วย โดย พล. อัคราเดช กล่าวว่า จากการสอบสวน นายชม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหายอมรับว่าเป็นหนึ่งในทีมสังหาร นายสมยศ จริง โดยเป็นผู้ได้รับการติดต่อจากผู้ว่าจ้างในการจัดหาทีมสังหาร โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท มาแบ่งกันในทีมสังหาร ส่วนตัวนายชมได้ส่วนแบ่งจำนวน 1 แสนบาท ส่วนสาเหตุที่ลงมือสังหารนั้นทางผู้จ้างวานบอกว่า เกี่ยวกับเรื่องเงินที่ติดค้างกันหลายล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับนายชม ได้หลบหนีไปกบดานที่ จ. เพชรบุรี ตำรวจจึงได้มีการเชิญตัวมาสอบถามก่อนทราบว่ามีหมายจับของ ศาลจังหวัดพระโขนง ที่จ. 400/2558 ลงวันที่ 3 ก. 2558 ติดตัวอยู่ จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยมีและใช้อาวุธปืนในฐานะผู้ใช้จ้างวาน พล. อัคราเดช กล่าวว่า สำหรับมูลเหตุการสังหาร นายสมยศ เกี่ยวข้องกับการหักหลังเรื่องเงินจำนวนหลายล้านบาท เกี่ยวกับการไปว่าคดี ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจจึงต้องระมัดระวังในการข่าวเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่านายชม เคยต้องโทษมาหลายคดี อาทิ คดีที่ร่วมกับ พ.
เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ "ผู้พันตึ๋ง" ซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทไปนำตัวไชยา แต่ปรากฏว่าวันนั้น บุญเลี้ยง มากับทหาร ตำรวจ และ ชาญ มีศรี อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง จึงได้พูดคุยทำความเข้าใจ อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา "ผู้พันตึ๋ง" ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะที่ นางอดา อดุลยฤทธิกุล ภรรยานายบุญเลี้ยง ไม่เชื่อว่าเป็นการชิงทรัพย์ หลังจากการสอบสวนขยายผล ตำรวจ สน. หัวหมาก ตั้งข้อหาหนัก นายขจรศักดิ์ 1. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ฆ่าผู้อื่น 3. ฆ่าผู้อื่นเอาไว้ซึ่งประโยชน์แก่การที่ตนกระทำผิด เพื่อปกปิดความผิด 4. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.
world_id:55920e644d265ad5478b4569 ปิดตำนาน สมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ ถูกยิงเสียชีวิตข้างรถเบนซ์ ในลานจอดรถกลางกรุงฯ รอง ผบ. ตร. สั่งสอบภาพ CCTV เร่งล่าคนร้าย ยังไม่ตัดประเด็นสังหารเกี่ยวคดียิง บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล เมื่อปี 2541 หรือไม่ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21. 25 น.
หลังจากวงการคาเฟ่เฟื่องฟู ทั้งคู่ถูกจับตาว่าเป็นคู่แข่งกัน กระทั่ง "เฮียเลี้ยง" ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อปี 2541 "สมยศ" ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบปากคำ ร่วมกับ ดาวตลกมากมาย และผู้ใกล้ชิด กระทั่งมีการจับมือปืนตัวจริงได้ และศาลก็พิพากษาลงทัณฑ์ ทำให้เขาพ้นมลทิน เมื่อมีขึ้นก็ย่อมมีร่วงโรย วงการคาเฟ่ ค่อยๆ เสื่อมถอย ดาวตลก ถ้าไม่แกร่งจริงก็ตกต่ำไร้แสง เพราะนายทุนเองก็มีปัญหาเช่นกัน ข่าวคราวของ "สมยศ สุธางค์กูร" ได้หายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อบันเทิง กระทั่งวันที่ 29 มิ. ย.
เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ "ผู้พันตึ๋ง" ซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทไปนำตัวไชยา แต่ปรากฏว่าวันนั้น บุญเลี้ยง มากับทหาร ตำรวจ และ ชาญ มีศรี อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง จึงได้พูดคุยทำความเข้าใจ อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา "ผู้พันตึ๋ง" ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะที่ นางอดา อดุลยฤทธิกุล ภรรยานายบุญเลี้ยง ไม่เชื่อว่าเป็นการชิงทรัพย์ หลังจากการสอบสวนขยายผล ตำรวจ สน. หัวหมาก ตั้งข้อหาหนัก นายขจรศักดิ์ 1. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ฆ่าผู้อื่น 3. ฆ่าผู้อื่นเอาไว้ซึ่งประโยชน์แก่การที่ตนกระทำผิด เพื่อปกปิดความผิด 4. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.