สายพันธุ์ พันธุ์มะละกอที่นิยมนำมาปลูกเป็นการค้า ถึงแม้ว่ามะละกอจะมีมากมายหลายพันธุ์ แต่เนื่องจากมะละกอเป็นพืชที่มีความไว่ต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม จึงมีอยู่ไม่กี่พันธุ์เท่านั้นที่เหมาะกับสภาพดินฟ้า อากาศของบ้านเรา 1.
พันธุ์ท่าพระ 50 เป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างพันธุ์แขกดำ (แม่พันธุ์) กับพันธุ์ฟลอริดาทอเลอแรนท์ ทำให้มีลักษณะเด่น คือ ลำต้นเตี้ย ความสูงเฉลี่ยประมาณ 1. 30 เมตร เท่านั้น ใบมีสีเขียวเข้มที่ทนต่อโรคใบจุดวงแหวนได้ดี การผลิตผลได้อย่างสม่ำเสมอ สามารถออกผลเร็วหลังจากย้ายกล้าปลูกเพียงระยะเวลาประมาณ 3 เดือน เท่านั้น ผลสุกเริ่มรุ่นแรกในระยะ 6-7 เดือน เช่นกัน ลักษณะผลที่ให้จะมีขนาดกลาง เรียวยาว ให้น้ำหนักต่อผลประมาณ 1. 5 กิโลกรัม ผลดิบให้เนื้อกรอบเหมาะสำหรับการทำส้มตำ ผลสุกมีลักษณะสีเหลือง รสชาติหวานนิยมรับประทานผลสุกเช่นกัน 4. พันธุ์โกโก้ มีลักษณะเป็นสายพันธุ์ต้นเตี้ย ให้ผลรุ่นแรกในช่วงอายุประมาณ 8-9 เดือน ต้นอ่อนมีสีม่วงปนเป็นจุดๆ ต้นโตจุดสีม่วงจะหายไป ก้านใบยาว มีทั้งสีม่วง สีน้ำตาลหรือสีเขียว ออกดอก และติดผลเร็ว เป็นพันธุ์ที่มีดอกตัวผู้มากถึงร้อยละ 80 ให้ผลขนาดกลาง ลักษณะผลส่วนหัวมน และค่อนข้างเรียวใหญ่ในช่วงท้ายผล ผิวผลเกลี้ยง ให้เนื้อแน่น กรอบ ผลสุกให้เนื้อสีแดงอมชมพู มีรสหวาน เมล็ดใหญ่สีเทาออกเหลือง นิยมรับประทานเป็นผลสุก และผลดิบสำหรับส้มตำ 5. พันธุ์แขกดำ มีลักษณะเป็นสายพันธุ์ทรงพุ่ม ต้นเตี้ย มีความสูงเพียง 2-4 เมตร เท่านั้น ก้านใบสีเขียว สั้น ตรง ใบหนากว่าพันธุ์อื่นๆ สามารถออกดอก และติดผลเร็ว ผลดิบรุ่นแรกอายุประมาณ 3-4 เดือน หลังปลูก ให้ผลขนาดกลาง มีลักษณะผลที่ส่วนหัว และส่วนท้ายผลมีขนาดเท่ากัน ความยาวผลประมาณ 20-40 เซนติเมตร ผลดิบมีลักษณะสีเขียวเข้ม เปลือกหนา ให้เนื้อประมาณ 2.
มะละกอพันธุ์ครั่ง(ละเอียดทุกแง่มุม) - YouTube
5 เมตร ให้ผลที่มีลักษณะคล้ายผลโกโก้ แต่ค่อนข้างกลมกว่า ขนาดผลยาวประมาณ 15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 10 เซนติเมตร น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 450 กรัม/ผล ผลสุกให้เนื้อที่มีรสหวาน เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ