เปิดกฎจราจรเบื้องต้นในชีวิตประจําวัน ที่ผู้ขับขี่ควรรู้ เพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบบนท้องถนน และที่สำคัญไม่ต้องโดนปรับเงินอีกด้วย! อุบัติเหตุส่วนมากที่เกิดขึ้นบนท้องถนนล้วนมีสาเหตุมาจากผู้ขับขี่ รถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์ ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร รวมถึงละเลยหรืออาจเป็นเพราะความเคยชินที่ทำจนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนมีความปลอดภัย เราจึงได้รวบรวม กฎจราจรเบื้องต้น ที่ควรรู้ในชีวิตประจําวัน และมารยาทในการขับขี่ต่าง ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม และเผลอทำผิดจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแนะนำกัน ดังนี้ 1. คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ก่อนจะสตาร์ตรถทุกครั้งอย่างแรกที่ควรปฏิบัติคือการคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดติดขึ้นมาขณะขับขี่ การคาดเข็มขัดนิรภัยจะเป็นตัวคอยเซฟและช่วยบรรเทาจากหนักให้เป็นเบาได้ รวมถึงพระราชบัญญัติจราจรทางบกระบุไว้ว่า ผู้ขับรถรวมทั้งผู้โดยสารจะต้องรัดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับรถตลอดเวลา หากฝ่าฝืนจะถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษปรับคนขับ 500 บาท และผู้โดยสารอีก 500 บาท 2. ทางม้าลายต้องหยุดให้คนข้าม เมื่อเราขับรถบนท้องถนน หากเห็นคนกำลังรอข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย ตามกฎหมายนั้นผู้ใช้รถจะต้องหยุดให้คนข้ามทางม้าลายก่อน โดยเมื่อเห็นทางม้าลายควรต้องชะลอความเร็ว ไม่ควรเร่งความเร็ว และห้ามแซงในระยะ 30 เมตร ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.
"นิพนธ์ บุญญามณี"ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วงสงกรานต์ วอนทุกฝ่ายร่วมปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน 15 เมาายน 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช. มหาดไทย พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามและตรวจเยี่ยมจุดตรวจในการดำเนินงานเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุตลอดช่วง เทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ณ จุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี อ. นาทวี จ.
ภาณุพงศ์ เฉลิมสิน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
หรือรถบรรทุกคนโดยสาร ให้ขับในเขต ไม่เกิน 60 กม. หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 80 กม. ) นับเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายจราจร ผู้ขับในลักษณะนี้มีความผิด 2 กระทง คือ มาตรา 34 บัญญัติไว้ว่าถนนที่มีการแบ่งเส้นจราจรมากกว่า 2 เลนขึ้นไป ผู้ขับขี่ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้าย หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1, 000 บาท และอีกข้อ คือ การขับรถกีดขวางทางจราจร มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1, 000 บาท 3. เปิดไฟตัดหมอกผิดที่ผิดเวลา เรียกว่าพบกันเห็นบ่อยๆ รถบางคันเปิดแบบไม่รู้ตัวโดยเฉพาะมือใหม่ หรือบางคนก็ไม่ทราบว่าสวิทช์ไฟตัดหมอกสามารถเปิด-ปิดได้ ไฟชนิดนี้มีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งด้านหลังส่วนใหญ่เป็นสีแดง มีความเข้มข้นของแสงมากกว่าไฟทั่วไป สามารถแยงตาให้รถที่ขับตามหลังมาได้เป็นระยะไกล ยิ่งเมื่อขับเข้าใกล้ก็ยิ่งทวีความจ้ามากขึ้น ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตเปิดได้ในกรณีที่มีหมอกหนาเท่านั้น หรือกรณีทัศนวิสัยไม่ดี หากเปิดพร่ำเพรื่อ มีความผิดปรับไม่เกิน 500 บาท 4. จอดในที่ห้ามจอด เรียกว่าเป็นอีกปัญหาที่พบเห็นกันมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความมักง่าย เห็นคนอื่นทำได้ก็ทำบ้าง เช่น จอดซื้อของ จอดแวะรับคน หรือจอดนำสัมภาระหรือนำสิ่งของรถ โดยเฉพาะบริเวณตลาด เขตชุมชน หรือซอยทางลัดที่ทางแคบเป็นเลนสวน ป้ายเตือนก็มี แถมที่ฟุตบาทก็มีสีขาว-แดงเตือน ก็เห็นจอดกันแบบไม่เกรงกลัว 5.
civil disobedience (n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะ ปฏิบัติตามกฎ หมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม antipope (แอน' ทิโพพ) n. ผู้ที่อ้างเป็นสันตะปาปา, การเลือกสันตะปาปาที่ไม่ได้ ปฏิบัติตามกฎ เกณฑ์ law-abiding (ลอ'อะไบ'ดิง) adj. ปฏิบัติตามกฎ หมาย., See also: law-abidingness n. ผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย. lawful (ลอ'ฟูล) adj. ถูกต้องตามกฎหมาย, ปฏิบัติตามกฎ หมาย, เคารพกฎหมาย, See also: lawfulness n. ดูlawful legality (ลิแกล'ลิที) n. ความถูกต้องตามกฎหมาย, การ ปฏิบัติตามกฎ หมาย, หน้าที่หรือความรับผิดชอบด้วยกฎหมาย observant (อับเซอ'เวินทฺ) adj. ระวัง, เอาใจใส่เคร่งครัด, ตาไว, คอยดู, ช่างสังเกต, ซึ่งรักษาวินัย, ซึ่ง ปฏิบัติตามกฎ หรือระเบียบหรือหน้าที่. n. ผู้ปฏิบัติตาม, ผู้รักษาวินัย, Syn. attentive observation (ออบเซอเว'เชิน) n. การสังเกต, การ ปฏิบัติตามกฎ หรือระเบียบหรือหน้าที่, ข้อสังเกต, ความเห็น, ข้อเตือนใจ, ข้อมูล, ข้อความ, ข่าว, สิ่งที่ได้จากการสังเกต, Syn. perception proceeding (พระซี'ดิง) n. การดำเนินการ, ขั้นตอน, วิธีการ, ขบวนการ, แนวทาง,, See also: proceedings กิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องในระยะหนึ่ง, การปฏิบัติตามกฎหมาย, วิธีการทางกฎหมาย
ย. 65) ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ศปถ. ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เป็นต้น นอกจากนี้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 16-18 เม. 65 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ "นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยทหารในพื้นที่ ภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท. )